“ราชันชุดขาว” 10 คนท้ายเกมพลิกเฉือนเอาชนะ เอลเช่ ไปแบบสุดมันส์ 1-2

การแข่งขันศึกฟุตบอลโกปา เดล เรย์ ระหว่าง เอลเช่ ลงสนามพบกับ เรอัล มาดริด เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-4-2 และทางด้านผู้มาเยือนมาสู้ในระบบ 4-3-3

นาทีที่ 9 เอลเช่ น่าจะมาได้ประตูขึ้นนำสุด ๆ

จากจังหวะของ โฆเซ่ อันโตนิโอ เฟอร์รันเดซ โปมาเรส หลุดเข้าเขตโทษมาทางฝั่งขวาก่อนจะปาดบอลเรียดมาหน้าประตู กุยโด การ์รีโญ่ ยิงจ่อ ๆ แบบโล่งแจ้งแต่กลับยิงพุ่งไปชนคานอย่างน่าเหลือเชื่อ

นาทีที่ 11 เรอัล มาดริด ตอบโต้ขึ้นมาทันควัน

จากจังหวะของ แอดุอาร์โด้ กามาแว็งก้า พาบอลลุยขึ้นมากลางสนามก่อนจะตัดสินใจยิงไกลนอกกรอบเขตโทษบอลพุ่งหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 25 เอลเช่ เปิดเกมแลกไม่กลัว

จากจังหวะของ โยฮัน โมฮิก้า เติมเกมขึ้นมาสูงทางฝั่งซ้ายก่อนจะเปิดบอลเข้ากลางมาให้ กุยโด การ์รีโญ่ ได้ขึ้นโหม่งบอลตรงกรอบแต่ก็ยังไม่ผ่าน อันดรีย์ ลูนิน พุ่งปัดทิ้งออกไปได้หวุดหวิด

นาทีที่ 39 เรอัล มาดริด พยายามขึงเกมรุกเข้าใส่

จากจังหวะของ วีนีซียุส จูเนียร์ พาบอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะไหลตั้งมาให้ แอดุอาร์โด้ กามาแว็งก้า วิ่งมากดเน้น ๆ บอลพุ่งไปตรงตัว อักเซล แวร์เนอร์ นายด่านเจ้าบ้านรับได้เอาไว้ไม่ยาก

จบครึ่งแรก เอลเช่ ยังเสมอกับ เรอัล มาดริด อยู่ที่ 0-0 รูปเกมทั้งสองทีมยังเปิดเกมสู้กันได้อย่างสูสีผลัดกันรุกผลัดกันรับได้ตลอด แต่ก็ยังขาดความเฉียบคมกันทั้งคู่ ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง

นาทีที่ 56 เรอัล มาดริด เร่งเครื่องตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง

จากจังหวะของ มาร์เซโล่ วิเอร่า พาบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะลากตัดเข้ากลางมาซัดบอลโค้งหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 76 คาเซมิโร่ เกือบมีชื่อบนสกอร์บอร์ด

จากจังหวะของ ลูคัส บาสเกซ เติมเกมขึ้นมาทางฝั่งขวา ปาดบอลเรียดเข้ากลางมาให้ คาเซมิโร่ สอดเข้ามายิงบอลกำลังจะเบียดเสาเข้าอยู่แล้ว แต่ อักเซล แวร์เนอร์ ยังพุ่งปัดทิ้งออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ

นาทีที่ 81 เรอัล มาดริด โหมบุกเต็มกำลัง

จากจังหวะของ โรดรีกู กอยส์ จ่ายบอลไปให้ มาร์เซโล่ วิเอร่า ไขว้ต่อไปให้ วีนีซียุส จูเนียร์ หลุดเข้าเขตโทษมาทางฝั่งซ้ายยิงทันที แต่บอลก็ยังไปตรงตัว อักเซล แวร์เนอร์ รับเอาไว้ได้สบาย

จบเกม 90 นาที เอลเช่ ยังเสมอกับ เรอัล มาดริด อยู่ที่ 0-0 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่ทำได้เหนือกว่า แต่จังหวะเข้าทำสุดท้ายก็ยังทำได้ไม่ดีพอ ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

นาทีที่ 101 เรอัล มาดริด ต้องมาเหลือ 10 คน

จากจังหวะบอลทะลุช่องขึ้นหน้ามาให้ เทเต โมเรนเต้ กำลังจะหลุดเข้าเขตโทษแต่ถูก มาร์เซโล่ วิเอร่า วิ่งตัดหลังใช้มือดึงไว้นิดนึงทำให้ เทเต โมเรนเต้ ทิ้งตัวล้มลงผู้ตัดสินเป่าก่อนจะให้เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม เรอัล มาดริด เหลือ 10 คน

นาทีที่ 103 เอลเช่ ทำประตูขึ้นนำจนได้

จากจังหวะต่อเนื่องลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษของ กอนซาโล เบร์ดู วิ่งมายิงบอลไปติดกำแพงก่อนจะเด้งกลับมาเข้าทางหวดซ้ำอีกครั้งบอลกระดอนพื้นพุ่งเข้าประตูไปไม่เหลือ เอลเช่ ออกนำ 1-0

นาทีที่ 108 เรอัล มาดริด ไล่ตีเสมอได้ทันควัน

จากจังหวะของ คาเซมิโร่ ไหลบอลมาให้ ดานี่ เซบายอส วิ่งมายิงหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งเข้าหาประตูแต่บอลก็ไปตรงตัว อิสโก สะกิดบอลทำลายจังหวะ อักเซล แวร์เนอร์ ส่งบอลเข้าประตูไปไม่พลาด เรอัล มาดริด ไล่มา 1-1

นาทีที่ 115 เอแดน อาซาร์ ลงมาซัดประตูชัยให้ทีม

จากจังหวะของ เอแดน อาซาร์ หลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะแตะบอลหนี อักเซล แวร์เนอร์ นายด่านเจ้าบ้านแล้วปั่นด้วยซ้ายทันทีบอลโค้งเข้าประตูไปไม่เหลือ เรอัล มาดริด พลิกแซง 1-2

จบเกม เอลเช่ แพ้ให้กับ เรอัล มาดริด ไป 1-2 ถึงแม้ว่า ราชันชุดขาว จะเหลือ 10 คนในสนามแต่ก็เปิดเกมสู้ไม่ถอยทำให้พลิกกลับมาชนะจนได้ ส่งผลให้ เรอัล มาดริด ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปในศึกโกปา เดล เรย์