การแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร ระหว่าง เชลซี ลงสนามพบกับ สเปอร์ส เกมนี้ เชลซี ลงเล่นในระบบ 3-4-3 และทางด้าน สเปอร์ส มาสู้ในระบบ 4-2-3-1
เกมเริ่มมาได้ 15 นาที เชลซี ได้ทักทายก่อน
จากจังหวะของ ฮาคิม ซีเย็ค ได้บอลริมเส้นทางฝั่งขวา ก่อนเปิดบอลโด่งเข้ามาให้ มาร์กอส อลอนโซ่ ขึ้นโหม่งบอลแต่บอลก็ยังไปตรงตัว ปีแอร์ลุยจี กอลลีนี นายด่านสเปอร์สรับเอาไว้ได้ไม่ยาก
นาทีที่ 16 เชลซี มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว
จากจังหวะของ ลูคัส มูร่า ครองบอลนานไปหน่อยถูก เอ็นโกโล่ ก็องเต้ แหย่เท้าจิ้มบอลก่อนจะมาเข้าทาง ฮาคิม ซีเย็ค ลากลุยมาหน้ากรอบเขตโทษ ตัดสินใจส่องไกลบอลพุ่งเรียดผ่านมือ ปีแอร์ลุยจี กอลลีนี นายทวารไก่เดือยทองซุกตาข่ายอย่างสวยงาม เชลซี ออกนำ 1-0
นาทีที่ 21 ยังคงเป็น เชลซี ที่บุกกดดันได้อย่างต่อเนื่อง
จากจังหวะของ มัตเตโอ โควาซิซ จ่ายบอลขึ้นหน้ามาให้ ติโม แวร์เนอร์ แต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนยิงไปติด เอริค ดายเออร์ บอลกระดอนมาเข้าทาง ฮาคิม ซีเย็ค ปั่นบอลโค้งออกข้างเสาซ้ายไปแบบได้เสียว
นาทีที่ 23 ติโม แวร์เนอร์ เกือบได้มีชื่อบนสกอร์บอร์ด
จากจังหวะของ มัตเตโอ โควาซิซ จ่ายบอลต่อมาให้ มาร์กอส อลอนโซ่ ตวัดจ่ายบอลเร็วให้ ติโม แวร์เนอร์ หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ เลี้ยงหลบ ปีแอร์ลุยจี กอลลีนี นายทวารไก่เดือยทองยิงเข้าประตู ไปแล้วแต่เจ้าตัวกลับล้ำหน้าไปก่อน
นาทีที่ 39 ปีแอร์ลุยจี กอลลีนี โชว์ซุปเปอร์เซฟ
จากจังหวะของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ไปแย่งบอลมาได้ก่อนจะกระชากพาบอลลุยเข้าเขตโทษทางด้านขวา จ่ายบอลทะลุมาถึง ติโม แวร์เนอร์ กดด้วยขวาแต่บอลยังไปติดเซฟ ปีแอร์ลุยจี กอลลีนี ช่วยทีมเอาไว้ได้หวุดหวิด
จบครึ่งแรก เชลซี ออกก่อน สเปอร์ส ไปก่อน 1-0 รูปเกมบอลส่วนใหญ่เป็นทางฝั่ง เชลซี ที่ทำได้ดีกว่าแต่ก็ยังขาด ๆ เกิน ๆ ในจังหวะเข้าทำสุดท้ายอยู่ทำให้สกอร์ยังไม่หนีห่าง ต้องมาลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 46 สเปอร์ส ได้ลุ้นจบสกอร์ทันที
จากจังหวะของ ลูคัส มูร่า พาบอลลุยขึ้นมาก่อนปาดบอลมาหน้าปากประตู เอดูอาร์ เมนดี้ นายด่านเชลซีทิ้งตัวจะรับบอลแต่หลุดมือบอลกระฉอกมาเข้าทาง ซน ฮึง-มิน ยิงจ่อ ๆ แต่ยังไปติดบล็อกแนวรับเจ้าบ้านออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 49 เชลซีมาพังประตูที่สองจนได้
จากจังหวะของ ติโม แวร์เนอร์ จ่ายบอลมาให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ หลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะจ่ายต่อให้ มาร์กอส อลอนโซ่ ไหลตั้งมาให้ ฮาคิม ซีเย็ค กดเต็มข้อบอลพุ่งผ่านมือ ปีแอร์ลุยจี กอลลีนี นายด่านสเปอร์สเข้าไปตุงตาข่ายไม่เหลือ เชลซี นำห่าง 2-0
นาทีที่ 56 สเปอร์ส มาได้ประตูปลุกความหวัง
จากจังหวะของ ลูคัส มูร่า ลากบอลเข้ามาในเขตโทษจ่ายสั้นออกมาที่ เดเล่ อัลลี่ แตะบอลคืนมาให้ ลูคัส มูร่า ยิงไปแฉลบตัว อันโตนิโอ รือดิงเกอร์ บอลลอยข้ามหัว เอดูอาร์ เมนดี้ นายด่านเชลซีส่งบอลเข้าประตูไปไม่เหลือ สเปอร์ส ไล่เป็น 2-1
นาทีที่ 70 สเปอร์สไล่ตีเสมอได้สำเร็จ
จากจังหวะของ มาล็อง ซาร์ จ่ายบอลพลาดถูก ลูคัส มูร่า ดักทางบอลจ่ายมาที่ ซน ฮึง-มิน กระชากพาบอลมาถึงหน้ากรอบเขตโทษก่อนจ่ายต่อให้ สเตเฟ่น เบิร์กไวจน์ วิ่งมากดเน้น ๆ บอลพุ่งลอดขา เอดูอาร์ เมนดี้ เข้าประตูไม่เหลือ สเปอร์ส ไล่ตีเสมอ 2-2
นาทีที่ 79 เชลซี เกมรวนเกือบโดนเม็ดที่สาม
จากจังหวะของ สเตเฟ่น เบิร์กไวจน์ จ่ายบอลให้กับ ซน ฮึง-มิน เลี้ยงจี้หากรอบก่อนจะปาดเรียด บอลมาถึง เบน เดวิส กึ่งยิงกึ่งผ่านมาหน้าประตูด้านเสาทางขวา เอดูอาร์ เมนดี้ หมดสิทธิ์ป้องกันแต่ยังดี มี อีธาน แอมพาดู แนวรับถอยมาเคลียร์ทิ้งช่วยทีมเอาไว้ได้หวุดหวิด
จบเกม เชลซี เสมอกับ สเปอร์ส ไป 2-2 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่ง เชลซี ที่ทำได้เหนือกว่าแต่ขาดความเฉียบคมกลายเป็นมาโดน สเปอร์ส ไล่ตีเสมอท้ายเกม ยังคงต้องปรับหมากกันต่อไป เกมนัดถัดไป สิงห์บลูส์ ต้องลงสนามพบ บียาร์เรอัล แชมป์ยูโรปาลีก ศึกยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ในวันที่ 11 กค 21