“เรือใบสีฟ้า” ฟอร์มดุถล่ม “สิงห์บลูส์” เละคาถิ่น

การแข่งขันในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ  ระหว่าง เชลซี เปิดบ้านรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-3-3 และฝั่งผู้มาเยือน มาสู้ในระบบ 4-3-3

เริ่มเกมมาได้ 4 นาที แซ็ค สเตฟเฟ่น ทำเสียว

จากจังหวะที่ โรดรี้ ส่งคืนหลังในกรอบให้ แซ็ค สเตฟเฟ่น รับบอล ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะแบ็คพาสทำให้ต้องเสียฟรีคิก 2 จังหวะบนเส้น 18 หลา เป็น ฮาคิม ซิเย็ค วิ่งเข้ามาซัดแต่ติดบล๊อกหลุดออกหลังไป

นาทีที่ 16  แมนฯซิตี้ เกือบได้ประตูขึ้นนำ

จากจังหวะ ชูเอา กันเซโล่ จ่ายทะลุช่องให้ เควิน เดอ บรอยน์ หลุดเข้าไปยิงด้วยขวา บอลพุ่งหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
นาทีที่ 18  อิลคาย กุนโดกัน ซัดเปิดกล่องให้เรือใบ

จากจังหวะของ ฟิล โฟเด้น จ่ายบอลให้กับ อิลคาย กุนโดกัน พลิกบอลหนี ติอาโก้ ซิลวา แล้วยิงด้วยขวาติดปลายมือ เอดูอาร์ เมนดี้ เบียดเสาเข้าไปอย่างสวยงาม  แมนเชสเตอร์ ซิตี้  ออกนำ 0-1

นาทีที่ 20 ฟิล โฟเด้น ยิงมุมแคบเข้าไปไม่เหลือ

จากจังหวะ เควิน เดอ บรอยน์ จะจ่ายทะลุช่องให้ ฟิล โฟเด้น แต่โดน ติอาโก้ ซิลวา สกัดออกมาแต่บอลยังมาเข้าทาง  เควิน เดอ บรอยน์ พาบอลเลี้ยงจี้เข้าหาประตูก่อนจะปาดมาเสาแรกให้ ฟิล โฟเด้น ตวัดยิงด้วยซ้ายไม่จับเบียดเสาแรกเข้าไปไม่เหลือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้  นำห่าง 0-2

นาทีที่ 35 เควิน เดอ บรอยน์ ทั้งยิงทั้งจ่าย

จากจังหวะที่เจ้าบ้าน ได้ลุ้นฟรีคิกหน้ากรอบยิงไปโดนแนวรับแมนซิตี้ สกัดออกมา เอ็นโกโล่ ก็องเต้ พยายามเปิดหนุนเข้าไปแต่ติดหัวของ เควิน เดอ บรอยน์ บอลไปเข้าทาง ราฮีม สเตอร์ลิง กระชากขึ้นไปดวลเดี่ยวกับ เอดูอาร์ เมนดี้ ก่อนจะล็อกหนีแล้วปั่นด้วยขวาบอลไปชนเสา ก่อนจะกระดอนมาเข้าทางของ เดอ บรอยน์ ตามมาซ้ำเข้าไปไม่เหลือให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้  ทิ้งห่าง 0-3

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

จบครึ่งแรก เชลซี ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 0-3 เป็นทีมเยือนที่มีเกมบุกที่ดุดันและเฉียบคมมากกว่าในช่วงเวลาแรก ต้องมาลุ้นกันว่า แฟร้งค์ แลมพาร์ด จะปรับทัพอย่างไรในครึ่งหลัง

นาทีที่ 54 โรดรี้ เกือบบวกประตูเพิ่ม

จากจังหวะ เควิน เดอ บรอยน์ เปิดฟรีคิกจากด้านขวาของสนามไปเสาไกลให้ โรดรี้ วิ่งเข้ามาโหม่งบอลกำลังจะมุดใต้คานอยู่แล้ว แต่โดน เอดูอาร์ เมนดี้ ปัดปลายนิ้วออกไปได้

นาทีที่ 62 เควิน เดอ บรอยน์ ลองส่องไกล

จากจังหวะของ ราฮีม สเตอร์ลิง จ่ายบอลเข้ากลางให้ เควิน เดอ บรอยน์ ได้ลองปั่นนอกกรอบกว่า 23 หลา แต่บอลหลุดกรอบออกไปแบบไม่ได้ลุ้น

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
นาทีที่ 64 เชลซีส่งสำรองลงหวังพลิกเกม

แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือ เชลซี เปลี่ยนสองคนพร้อมกันส่ง คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย และบิลลี่ กิลมอร์ ลงเล่นแทน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และฮาคิม ซิเย็ค

นาทีที่ 81 เจ้าบ้านได้ตอบโต้

ได้ลุ้นจากจังหวะ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย เปิดบอลเข้าไปให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้ขึ้นโหม่งแต่บอลหลุด กรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 90+2 เจ้าบ้านเอาจนได้แต่ช้าไปหน่อย

จากจังหวะเปิดบอลเข้ามาของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ทางฝั่งซ้ายบอลผ่านมาเสาไกลถึง คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ตามมาล้มตัวยิงเข้าไปทำให้ เชลซี ตีไข่แตกได้สำเร็จ เชลซี 1-3

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

จบเกม เชลซี แพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 1-3 เกมนี้เป็นทีมเยือนที่สร้างสรรค์จังหวะเข้าทำได้ดีกว่าและแนวรุกของ แมนฯซิตี้ มีความเฉียบคมกว่าทำให้เกมนี้ แมนฯ ชิตี้ คว้าสามคะแนนเต็ม ส่งผลให้มีคะแนนรวมเป็น 29 คะแนน อยู่อันดับ 5 และทางด้าน เชลซี มี 26 คะแนน อยู่ในอันดับ 8 

เกมนัดถัดไปของ เชลซี  พบกับ มอร์แคมป์ ในศึกเอฟเอคัพ วันที่ 10 มกราคม 2021 และทางด้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกลีกคัพ วันที่ 7 มกราคม 2021

ติดตามบทความ วิเคราะห์บอล พรีวิวหลังเกม ข่าวสารฟุตบอล และ ไฮไลท์ฟุตบอล ได้อีกเพียบที่นี่