“โบโร่” หักปากกาเซียน!! แม่นเป้าเขี่ย “ปีศาจแดง” จอดรอบ 4

การแข่งขันในศึกฟุตบอลเอฟเอคัพ อังกฤษ รอบ 4 ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ มิดเดิ้ลสโบรช์ เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-2-3-1 และทางด้านทีมเยือนมาสู้ในระบบ 3-5-2

เกมเริ่มมาได้ 2 นาที ปีศาจแดง ได้เสียวก่อนเลย

จากจังหวะของ โจ ลัมลี่ย์ ออกมารับบอลแต่ชนกับ ดาเอล ฟราย บอลหลุดมือมาหน้ากรอบเขตโทษ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พยายามจะยกบอลแต่กระฉอกไปถึง จาดอน ซานโช่ ชิพบอลเร็วย้อยชนคานกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 6 แมน ยู ขึงเกมรุกเอาไว้ต่อเนื่อง

จากจังหวะของ จาดอน ซานโช่ จ่ายบอลสั้นไปให้ ลุค ชอว์ เปิดไซต์ก้อยจากทางฝั่งซ้าย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ขึ้นจักรยานอากาศแต่บอลก็ยังตรงตัวมือกาวสิงห์แดง

นาทีที่ 12 ยังเป็นเกมของ ปีศาจแดง

จากจังหวะของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จ่ายบอลฝากไปให้ ดีเอโก้ ดาโลต์ ไหลย้อนคืนมาก่อนจะเป็น โรนัลโด้ ยิงบอลพุ่งเข้ากรอบแต่ โจ ลัมลี่ย์ ยื่นมือรับไว้ได้สบาย

นาทีที่ 19 ปีศาจแดง มาได้จุดโทษ

จากจังหวะของ ลุค ชอว์ จ่ายบอลยัดไปในเขตโทษ ปอล ป็อกบา รับบอลแต่โดน อันเฟอร์นี ไดจ์คสตีล เหยียบเท้าทำให้ ป็อกบา ล้มลงผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ และเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รับหน้าที่สังหารซัดบอลออกข้างเสาซ้ายไปแบบไม่น่าเชื่อ

นาทีที่ 25 ปีศาจแดง มาได้ประตูขึ้นนำจนได้

จากจังหวะของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส วางบอลกลางสนาม จาดอน ซานโช่ เกี่ยวบอลลงลากพาบอลเข้าไปในเขตโทษทางฝั่งซ้ายยิงไปแฉลบปลายเท้า อิไซอาห์ โจนส์ ซุกก้นตาข่ายไปไม่เหลือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกนำ 1-0

นาทีที่ 33 แมนยู ยังคงเดินหน้าหาเม็ดที่สอง

จากจังหวะของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จ่ายบอลเร็วไปให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สปีดมายิงบอลพุ่งไปติดขานายทวารทีมเยือนที่ออกบล็อกขัดขวางได้อย่างรวดเร็ว

จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกนำ มิดเดิ้ลสโบรช์ ไปก่อน 1-0 รูปเกมเป็นทางเจ้าบ้านที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้ตลอด แต่ก็ยังขาด ๆ เกิน ๆ ทำให้สกอร์ยังไม่ห่าง ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง

นาทีที่ 54 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เร่งเครื่องตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง

จากจังหวะของ ลุค ชอว์ จ่ายบอลจากหลังทะลุไปให้ จาดอน ซานโช่ วิ่งฉีกแนวรับทีมเยือน หลุดขึ้นมาเปิดบอลเข้ามาหน้าประตู มาร์คัส แรซฟอร์ด กระโดดยิงคนเดียวบอลพุ่งออกข้างกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 64 มิดเดิ้ลสโบรช์ ไม่ยอมไล่เจ๊าสำเร็จ

จากจังหวะของ อิไซอาห์ โจนส์ เติมเกมขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนจะเปิดบอลเข้าในให้ ดันแคน วัตมอร์ จับบอลโดนมือตนเอง ก่อนไหลมาเสาสองให้ แม็ตต์ ครู้กส์ ทิ้งตัวยิงส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายไม่พลาด มิดเดิ้ลสโบรช์ ไล่มา 1-1  

นาทีที่ 90+1 แมนยู เกือบมาได้ประตูชัยท้ายเกม

จากจังวะของ เฟร็ด วางบอลมาให้ แอนโธนี่ย์ อีแลงก้า ได้ขึ้นโหม่งเต็มแรง แต่ โจ ลัมลี่ย์ ยืนถูกที่ตะปบบอลเอาไว้ได้ไม่พลาด 

จบเวลา 90 นาที ทั้งสองทีมยังเสมอกัน 1-1 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที

นาทีที่ 101 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พลาดโอกาสทอง

จากจังหวะของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ไหลบอลทะลุช่อง แอนโธนี่ย์ อีแลงก้า โดนดึงล้มลงไปบอลเลยไปถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สอดเข้ามาในเขตโทษทางฝั่งซ้ายซัดเน้น ๆ แต่บอลก็ยังไปเข้าข้างตาข่ายหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 115 โบโร่ นาน ๆ ลุยขึ้นมาที

จากจังหวะบอลวางเข้ามาลุ้นหน้าเขตโทษของ จอนนี่ ฮาวสัน บอลลอยโด่งเข้ามาถึง ดาเอล ฟราย โหม่งชงมาให้ อารอน คอนนอลลี่ ดีดเร็วหน้าปากประตู แต่ ดีน เฮนเดอร์สัน ยังไม่พลาดเซฟช่วยทีมเอาไว้ได้

จบเกม 120 นาที ทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้เสมออยู่ที่ 1-1 ทำให้ต้องดวลจุดโทษก่อนจะเป็น มิดเดิ้ลสโบรช์ ที่แม่นกว่าเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้ 7-8 ทำให้ มิดเดิ้ลสโบรช์ ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปในศึกฟุตบอลเอฟเอคัพ